วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การกำเนิดของมหาเทพอามาเทราสึ

                รู้สึกพักนี้จะเขียนเอนทรี่ติดกันรัวๆ เพราะเพิ่งจะมีเวลานี่ล่ะครับ T_T

                ตอนนี้ก็มาต่อกันเลยกับตอนสำคัญครับ กับกำเนิดเทพอามาเทราสึ

                หลังจากเทพอิซานากิกลับมาจากโยมิโนะคุนิ ก็ไปชำระร่างกาย เครื่องแต่งกายต่างๆ ที่เทพอิซานากิถอดออกตอนนั้นก็ได้กลายเป็นเทพขึ้นมาอีก 12 องค์

                วะตะสึมิโนะคามิ (綿津見神) ทั้ง 3 องค์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากการชำระล้างของเทพอิซานากินั้น เป็นตระกูลทรงอำนาจที่คอยควบคุมกลุ่มอามะ (海人) และเป็นบรรพบุรุษของกลุ่มอาซึมิโนะมุราจิ (阿曇連) ซึ่งกลุ่มอาซึมิโนะมุราจินี้เป็นหลานของบุตรแห่งวะตะสึมิโนะคามิ ชื่ออุสึชิฮิคานะสะคุโนะมิโคโตะ (宇都志日金析命) เทพทั้ง 3 องค์คือ โซโคะสึสึโนะโอะโนะมิโคโตะ (底箇之男命), นากะสึสึโนะโอะโนะมิโคโตะ (中箇之男命) และอุวะสึสึโนะโอะโนะมิโคโตะ (上箇之男命) เป็นเทพแห่งการเดินทาง และถูกสักการะบูชาในฐานะไตรมหาเทพแห่งสึมิโนะเอะ (墨江 ปัจจุบันคือศาลเจ้าสึมิโยชิในจังหวัดโอซาก้า) และถูกขนานนามว่ามหาเทพสึมิโยชิโนะโอคามิ (住吉大神) มหาเทพทั้ง 3 องค์หลังจากนี้จะมอบคำพยากรณ์แก่จักรพรรดิองค์ที่ 14 คือจักรพรรดิจูไอ แล้วปลอดชีพองค์จักรพรรดิที่ไม่ยอมทำตามคำพยากรณ์ และถูกเล่าขานใหม่อีกครั้งในฐานะเทพผู้ปกปักษ์จักพรรดินีจินงูในการเดินทางไปยังชิรางิ (新羅 อีกชื่อหนึ่งคืออาณาจักรชิลลาเก่าของเกาหลี) ในภายหลัง

                และเมื่อเทพอิซานากิล้างหน้านั้น เทพที่ถือกำเนิดจากการล้างตาข้างซ้ายของเทพอิซานากิ เป็นเทพที่ส่องแสงไปถึงสวรรค์ ซึ่งก็คือมหาเทพอามาเทราสึ (天照大御神) ซึ่งเป็นเทพีสุริยา หรือเทพแห่งพระอาทิตย์นั่นเอง เมื่อเทพอิซานากิล้างตาข้างซ้าย ก็กำเนิดเป็นเทพแห่งดวงจันทร์ สึคุโยมิโนะมิโคโตะ (月読命) ครั้นเมื่อเทพอิซานากิล้างจมูก ก็กำเนิดเป็นเทพแห่งวายุผู้กล้าหาญและรวดเร็ว ทาเคะฮายาสึซาโนโอะโนะมิโคโตะ (健速須佐之男命) เทพ 3 องค์ที่เราคุ้นชื่อกันดีนั่นเอง

                เทพอิซานากิดีใจมากที่ตนให้กำเนิดเทพที่ยอดเยี่ยมออกมาถึง 3 องค์ จึงได้ถอดสร้อยคอให้แก่อามาเทราสึ พร้อมสั่งให้ไปครองทาคามะโนะฮาระ ให้สึคุโยมิไปปกครองโยรุโนะโอสึคุนิ (夜之食国=โลกราตรี) และให้สึซาโนโอะไปปกครองอุนะฮาระ (海原)

                ทว่า สึซาโนะโอะที่ถูกสั่งให้ไปปกครองอุนะฮาระนั้นเอาแต่ร้องไห้ ทำให้เกิดอาเพศขึ้น ภูเขาแห้งแล้ง แม่น้ำและทะเลก็เหือดแห้ง และเนื่องจากสึซาโนะโอะเป็นเทพแห่งวายุ จึงทำให้เกิดวาตภัยไปทั่วทุกแห่ง เมื่อเทพอิซานากิถามถึงสาเหตุว่าทำไมถึงเอาแต่ร้องไห้ สึซาโนะโอะจึงตอบไปว่า “ตนอยากจะไปยังเนะโนะคาตะสึคุนิ (根之堅州国) ที่มารดาอยู่ จึงได้ร้องไห้” สึนาโนะโอะนั้นคิดว่าเทพอิซานามิเป็นแม่ของตน ทำให้เทพอิซานากิโกรธ จนขับไล่สึซาโนะโอะออกจากอุนะฮาระ
                ตอนนี้ผมขอจบไว้เพียงเท่านี้ครับ เนื่องจากตอนหน้าจะเข้าช่วงที่เรื่องราวมีอามาเทราสึและสึซาโนโอะเป็นศูนย์กลางแล้ว และคงยาว แบ่งไว้แบบนี้น่าจะอ่านได้ง่ายกว่าครับ

Ref
  • หนังสือ 現代語古事記 โดย ทาเคดะ สึเนะยาสึ



มุมรำพึงกับคนเขียน

                ไม่ทราบจะวิเคราะห์ยังไงดีครับ = =’

                ท่านที่อ่านน่าจะเห็นแล้วว่า ตอนที่แล้วเรารู้กันว่าเทพอิซานามิอยู่ที่โยมิโนะคุนิ แต่ตอนนี้ สึซาโนโอะกลับพูดว่า เทพอิซานามิอยู่ที่เนะโนะคาตะสึคุนิ ซึ่งเป็นข้อสงสัยกันในหมู่ผู้อ่านโคจิกิว่า ทั้งสองที่นี้เป็นที่เดียวกันหรือไม่ มีทั้งผู้ที่บอกว่าเป็นที่เดียวกัน และไม่ใช่ที่เดียวกัน แต่จากการวิเคราะห์ของอ.ทาเคดะผู้เขียนหนังสือโคจิกิเล่มที่ผมอ่านนั้นสรุปว่า “น่าจะ” เป็นคนละสถานที่เนื่องจากหากสึซาโนะโอะอยากจะไปหาแม่(เทพอิซานามิ) ก็จะจะต้องพูดว่าไปที่โยมิโนะคุนิ แต่กลับบอกว่าเทพอิซานามิอยู่ที่เนะโนะคาตะสึคุนิ ทั้งสองที่นี้จึงน่าจะเป็นคนละสถานที่กัน แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครฟันธงเพราะต้นฉบับไม่ได้บอกอะไรไว้ชัดเจนครับ


kurota

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

โยมิโนะคุนิ (黄泉の国)

เทพอิซานากิเศร้าโศกเสียใจ จนออกติดตามเทพอิซานามิไปยังโยมิโนะคุนิ เมื่อมาถึงยังปราสาทที่เทพอิซานามิอยู่ เทพอิซานากิก็อ้อนวอนขอร้องให้กลับไปด้วยกัน หากแต่เทพอิซานามิตอบกลับมาว่า “หากท่านมาให้เร็วกว่านี้ก็คงจะดี ตัวข้าเองได้ทานอาหารของโยมิโนะคุนิเข้าไป จึงกลายเป็นคนของโลกนี้ไปแล้ว ไม่สามารถกลับไปกับท่านได้ แต่หากท่านเอ่ยปากเช่นนั้น ข้าจะลองปรึกษากับเทพแห่งโยมิโนะคุนิ ในระหว่างนั้น ขอให้ท่านสัญญาว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ห้ามมองข้าเด็ดขาด” เทพอิซานากิก็รับปาก แต่รอแล้วรอเล่าเทพอิซานามิก็ยังไม่มาเสียที

เมื่อทนรอไม่ได้ เทพอิซานากิจึงได้ละเมิดสัญญาแล้วเข้าไปในปราสาท ตัวปราสาทนั้นมืด เทพอิซานากิจึงหักซี่ที่ใหญ่ที่สุดของหวีออกมาแล้วใช้จุดไฟนำทาง แต่สิ่งที่เทพอิซานากิได้เห็นก็คือร่างอันเน่าเปื่อย มีหนอนชอนไชของเทพอิซานามิ เทพอิซานากิตกใจจนวิ่งหนีออกมา เทพอิซานามิทั้งโกรธและอับอายจึงส่งโยโมสึชิโกเมะ(予母都志許売) ซึ่งเป็นชิโกเมะ (醜女=ปิศาจในโยมิโนะคุนิ หน้าตาน่ากลัว กระโจนครั้งหนึ่งได้ไกลถึง 4,000 กม.) ตามไป เมื่อเห็นจวนตัวเทพอิซานากิจึงได้ขว้างไม้เลื้อยออกไป เมื่อตกถึงพื้นก็กลายเป็นองุ่นงอกขึ้นมา ชิโกะเมะที่ตามมาก็เก็บองุ่นกินทำให้เทพอิซานากิหนีต่อไปได้ แต่ชิโกเมะกินองุ่นหมดไวมากก็ตามกระชั้นเข้ามาอีก เทพอิซานากิจึงขว้างที่รวบผมข้างขวาออกไปกลายเป็นหน่อไม้ ชิโกเมะก็เก็บกินอีก เปิดช่องว่างให้เทพอิซานากิหนีต่อไปได้

ทว่า สิ่งที่ไล่ตามเทพอิซานากิมาไม่ได้มีแค่ชิโกเมะ แต่ยังมีเทพแห่งสายฟ้าทั้ง 8 ที่ถือกำเนิดจากเทพอิซานามิ และทหารโยมิโนะคุนิอีก 1,500 ตนตามมา ซึ่งทั้งหมดเป็นวิญญาณร้ายที่น่ากลัว อิซานากิวิ่งไปพลางแกว่งดาบโทสึกะโนสึรุงิไปพลาง จนใกล้จะถึงโยโมสึฮิราซากะ(黄泉比良坂) ซึ่งเป็นเขตแดนระหว่างโลกจริงและโยมิโนะคุนิ เทพอิซานากิเด็ดลูกท้อจากต้นที่ขึ้นตรงนั้นมา 3 ลูก แล้วขว้างออกไป ทำให้เหล่าวิญญาณร้ายที่ตามมาเสียกระบวนจนหนีกลับไป

สุดท้ายเทพอิซานามิก็ตามาถึง เทพอิซานากิจึงขยับก้อนหินยักษ์ที่เรียกกันว่าจิบิกิโนะอิวะ (千引の石) ที่ต้องใช้คนถึงพันคนมาออกแรงถึงจะขยับได้มาอุดทางเข้าโยโมสึฮิราซากะเอาไว้ ทั้งคู่คุยกันอยู่คนละฟากของก้อนหิน เมื่อเทพอิซานากิขอแยกทาง เทพอิซานามิจึงว่า “หากสามีที่รักเช่นท่านกล่าวเช่นนั้น ข้าก็จะฆ่าคนในประเทศของท่านวันละพันคน” เทพอิซานากิจึงตอบกลับไปว่า “หากภรรยาที่รักเช่นท่านกล่าวเช่นนั้น ข้าก็จะให้กำเนิดวันละพันห้าร้อยคน” และนี่คือการลาจากกันชั่วนิรันดร์ของเทพอิซานากิและอิซานามิ

เทพอิซานามิถูกเรียกว่าเทพโยโมสึโอคามิ(黄泉津大神) และกลายเป็นมหาเทพของโยมิโนะคุนิ ส่วนเทพอิซานากิ ก็เป็นมหาเทพของโลกมนุษย์

Ref
   หนังสือ現代語古事โดย ทาเคดะ สึเนะยาสึ
----------------------------------------------------------------------------

มุมรำพึงกับคนเขียน

                ก็...คราวนี้ไม่เชิงรำพึงนะครับ แต่เรียกว่าวิเคราะห์และสรุปตามความเข้าใจของผมมากกว่า

                โยมิโนะคุนิ อันที่จริงไม่ได้บอกว่าเป็นสถานที่แบบใดอย่างชัดเจน ตามที่ทุกท่านได้อ่านมาคงจะเห็นแล้วว่าน่าจะเป็นดินแดนหลังความตาย ซึ่งในโคจิกิ คำว่า ประเทศ ( คุนิ) ที่ต่อท้ายชื่อนั้น ในความรู้สึกผมหมายถึง “ดินแดน” หรือ “โลก” มากกว่าที่จะเป็นประเทศ เพราะฉะนั้น 天国 จึงแปลว่าสวรรค์ครับ ซึ่งบางครั้งหากมีคำว่าโยมิโนะคุนิ ผมจะเขียนไปเลยว่าเป็น “ดินแดนหลังความตาย” ที่น่าจะเข้าใจได้ง่ายมากกว่าการทับศัพท์ แต่ในโคจิกิผมจะเขียนว่า โยมิโนะคุนิ เสมอ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันครับ

                นอกจากโยมิโนะคุนิแล้วยังมี “ดินแดน” ชื่ออื่นๆ ที่ลักษณะต่างกันอีก แต่จะเอาไว้กล่าวถึงหลังจากนี้อีกไม่นานครับ อ้อใช่ หากคุณผู้อ่านสังเกต ตอนนี้เทพอิซานากิกับเทพอิซานามิแยกทางกันแล้ว เทพอามาเทราสึก็ยังไม่ถือกำเนิดครับ เทพที่กำเนิดบนโลกหลังจากนี้จะเป็นเทพอีกแบบในตอนหน้า ซึ่งจะเป็นตอนกำเนิดของเทพอามาเทราสึแล้ว และผมก็หวังว่าจะได้เขียนเร็วๆ เพราะก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ถึงจะอ่านมารอบนึงแล้วก็เถอะนะ ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า “กำเนิดมหาเทพีอามาเทราสึ” ครับ

kutora

การให้กำเนิดเทพเจ้าของเทพอิซานากิและเทพอิซานามิ


ก่อนอื่นต้องขออภัยครับที่ห่างหายไปหลายเดือนเนื่องจากติดงานเลยไม่ได้เขียนต่อ

ที่ผ่านมาผมรู้สึกว่าจะเขียนลงรายละเอียดเยอะไปหน่อย คือเป็นรายละเอียดที่ไม่ต้องรู้ก็ได้น่ะครับ แต่เนื่องจากมันเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นก็เลยลงเอาไว้ แต่พอกลับมาอ่านเองอีกทีก็เห็นว่าน่าจะตัดทอนออกไปบ้างเนื่องจากอ่านยากมาก แล้วก็เป็นเรื่องที่ไม่ต้องจำก็ได้ เพราะฉะนั้นต่อไปจะพยายามตัดทอนเนื้อหาให้เหลือเน้นไปทางเรื่องเทพเจ้ามากยิ่งขึ้นครับ แต่อาจจะมีแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยบ้างเช่นเคย

ส่วนหัวข้อตอนนี้จะเป็นการให้กำเนิดเทพเจ้าของเทพอิซานากิและอิซานามิครับ น่าจะเป็นตอนที่ทุกคนรอคอย แต่ยังไม่ถึงเทพอามาเทราสึผู้โด่งดังนะครับ ต้องผ่านเควสนี้ไปก่อน

หลังจากที่เทพอิซานากิและเทพอิซานามิได้ให้กำเนิดเกาะญี่ปุ่นแล้ว ก็ให้กำเนิดเทพขึ้นมา เริ่มจากเทพที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย 7 องค์ ตามด้วยเทพแห่งทะเล, เทพแห่งแม่น้ำ และเทพเจ้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำ 3 องค์ เทพแห่งลม, เทพแห่งพืชพันธุ์, เทพแห่งภูเขา, เทพแห่งทุ่งหญ้า ซึ่งเป็นเทพที่เกี่ยวข้องกับพื้นพิภพ 4 องค์ สุดท้ายคือเทพเรือ, เทพแห่งอาหาร, เทพแห่งไฟ ซึ่งเป็นเทพที่เกี่ยวกับการสร้าง 3 องค์ รวมทั้งหมด  17 องค์

ระหว่างนั้น เทพฮะยะอากิสึฮิโกะโนะคามิ (速秋津比子神) และเทพฮะยะอากิสึฮิเมะโนะคามิ (速秋津比売神) ก็แบ่งกันครอบครองแม่น้ำและทะเล และให้กำเนิดเทพแห่งฟอง, เทพแห่งคลื่น, เทพแห่งผิวน้ำ ซึ่งเป็นเทพเจ้าเกี่ยวข้องกับน้ำและแม่น้ำขึ้นมาอีก 8 องค์ และเทพแห่งภูเขา โอยามะสึมิโนะคามิ (大山津見神) และเทพเจ้าแห่งทุ่งหญ้า คะยะโนะฮิเมะโนะคามิ (鹿屋野比売神) ก็แบ่งกันครอบครองภูเขาและทุ่งหญ้า และได้ให้กำเนิดเทพที่เกี่ยวข้องกับยอดเขา, หมอก, หุบเหว ซึ่งเป็นเทพที่เกี่ยวข้องกับภูเขาและทุ่งหญ้าขึ้นมาอีก 8 องค์  และเทพที่ถือกำเนิดขึ้นมาอีกรวม 18 องค์ ก็ถือเป็นหลานของเทพอิซานากิและเทพอิซานามิ

ทว่า ระหว่างที่เทพอิซานามิให้กำเนิดเทพแห่งไฟ ฮิโนะคางุสึจิโนะมิคามิ (火之迦具土神) นั้น ได้ถูกเพลิงเผาจนได้รับบาดเจ็บ แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงให้กำเนิดเทพออกมาอีกจากของเหลวที่สำรอกออกมาจากทวารต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเทพที่ถือกำเนิดมาจากปัสสาวะของเทพอิซานามิ ก็คือเทพแห่งการให้กำเนิดวะคุมุสึฮิโนะคามิ (和久産巣日神)

บุตรีของเทพวะคุมุสึฮิโนะคามิ คือเทพแห่งธัญพืช โทโยอุเคบิเมะโนะคามิ (豊宇気毘売神) และเทพโทโยอุเคบิเมะโนะคามิองค์นี้จะเป็นเทพเจ้าองค์สำคัญที่ถูกสักการะบูชาอยู่ในศาลเจ้าส่วนนอกของศาลเจ้าอิเสะ ในฐานะเทพที่คอยดูแลเรื่องอาหารของเทพอามาเทราสึในภายหลัง

เทพอิซานามิล้มเจ็บลงไม่นานก็เสียชีวิตไป เทพอิซานากินอนร่ำไห้เนื่องจากไม่คิดว่าการให้กำเนิดเทพจะทำให้เทพอิซานามิต้องเสียชีวิต น้ำตาของเทพอิซานากิที่หลั่งออกมากลายเป็นเทพนะคิซาวะเมะโนะคามิ (泣沢女神) ซึ่งเป็นเทพแห่งน้ำพุ เทพอิซานากินำศพของเทพอิซานามิไปฝังยังภูเขาฮิบะโนะยามะ ที่อยู่ระหว่างเขตแดนของอิซึโมะโนะคุนิและฮะฮะคิโนะคุนิ เทพอิซานากิแค้นเคืองมากถึงกับชักดาบโทสึกะโนะสึรุงิ (十拳剣) ออกมาฟันคอของฮิโนะคางุสึจิที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานจนขาด เลือดที่กระเซ็นออกจากคอของฮิโนะคางุสึจิไปติดที่ดาบและก้อนหินก็ได้กำเนิดเป็นเทพแห่งดาบและก้อนหินขึ้นมา หนึ่งในนั้นก็คือเทพทาเคะมิกะสึจิโนะโอมิคามิ(健御雷之男神) หรืออีกชื่อคือทาเคะฟุสึโนะคามิ (健布都神) นอกจากเลือกแล้ว ชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ ในร่างกายก็ได้กลายเป็นเทพเจ้าขึ้นมาอีกหลายต่อหลายองค์ และดาบโทสึกะโนะสึรุงิที่ใช้ตัดคอฮิโนะคางุสึจินั้นก็ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า อาเมะโนะโอฮาบะริ (天之尾羽張) หรืออิสึโนะโอฮาบะริ (伊都之尾羽張)

เนื่องจากการเสียชีวิตของเทพอิซานามิ การสร้างประเทศ(ในความคิดผมก็คือการสร้างแผ่นดิน)นั้นชะงักลง เรื่องราวหลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงโยมิโนะคุนิ (黄泉国) ซึ่งเป็นโลกแห่งความตาย ที่ผมจะแยกเอาไว้ในหัวข้อถัดไปครับ

Ref


  • หนังสือ現代語古事โดย ทาเคดะ สึเนะยาสึ

  •  -----------------------------------------------------------------------------

    มุมรำพึงกับคนเขียน


    อันที่จริงผมได้รู้จักกับโคจิกิ ก็เพราะอนิเมเรื่อง Mai-HiME ครับ ไชลด์ในเรื่องรวมรวบมาจากตำนานเทพต่างๆ ทั่วโลก แน่นอนล่ะว่าที่ดึงดูดผมมากที่สุดก็คือไชลด์ของญี่ปุ่น ถ้าจำไม่ผิดก็จะเป็นคิโยฮิเมะ (清姫) ของประธานฟุจิโนะ ชิซึรุ ซึ่งก็เป็นตำนานที่จบในตรงนั้นไม่มีต่อ แต่ที่ทำให้ผมเจอกับโคจิกิเข้าจังๆ ก็คือไชลด์ที่มีที่มาจากเทพแห่งไฟคางุสึจิ ของโทคิฮะ ไม นี่แหละครับ หลังจากผมค้นข้อมูลก็เลยยาวมาจนป่านนี้