วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

โยมิโนะคุนิ (黄泉の国)

เทพอิซานากิเศร้าโศกเสียใจ จนออกติดตามเทพอิซานามิไปยังโยมิโนะคุนิ เมื่อมาถึงยังปราสาทที่เทพอิซานามิอยู่ เทพอิซานากิก็อ้อนวอนขอร้องให้กลับไปด้วยกัน หากแต่เทพอิซานามิตอบกลับมาว่า “หากท่านมาให้เร็วกว่านี้ก็คงจะดี ตัวข้าเองได้ทานอาหารของโยมิโนะคุนิเข้าไป จึงกลายเป็นคนของโลกนี้ไปแล้ว ไม่สามารถกลับไปกับท่านได้ แต่หากท่านเอ่ยปากเช่นนั้น ข้าจะลองปรึกษากับเทพแห่งโยมิโนะคุนิ ในระหว่างนั้น ขอให้ท่านสัญญาว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ห้ามมองข้าเด็ดขาด” เทพอิซานากิก็รับปาก แต่รอแล้วรอเล่าเทพอิซานามิก็ยังไม่มาเสียที

เมื่อทนรอไม่ได้ เทพอิซานากิจึงได้ละเมิดสัญญาแล้วเข้าไปในปราสาท ตัวปราสาทนั้นมืด เทพอิซานากิจึงหักซี่ที่ใหญ่ที่สุดของหวีออกมาแล้วใช้จุดไฟนำทาง แต่สิ่งที่เทพอิซานากิได้เห็นก็คือร่างอันเน่าเปื่อย มีหนอนชอนไชของเทพอิซานามิ เทพอิซานากิตกใจจนวิ่งหนีออกมา เทพอิซานามิทั้งโกรธและอับอายจึงส่งโยโมสึชิโกเมะ(予母都志許売) ซึ่งเป็นชิโกเมะ (醜女=ปิศาจในโยมิโนะคุนิ หน้าตาน่ากลัว กระโจนครั้งหนึ่งได้ไกลถึง 4,000 กม.) ตามไป เมื่อเห็นจวนตัวเทพอิซานากิจึงได้ขว้างไม้เลื้อยออกไป เมื่อตกถึงพื้นก็กลายเป็นองุ่นงอกขึ้นมา ชิโกะเมะที่ตามมาก็เก็บองุ่นกินทำให้เทพอิซานากิหนีต่อไปได้ แต่ชิโกเมะกินองุ่นหมดไวมากก็ตามกระชั้นเข้ามาอีก เทพอิซานากิจึงขว้างที่รวบผมข้างขวาออกไปกลายเป็นหน่อไม้ ชิโกเมะก็เก็บกินอีก เปิดช่องว่างให้เทพอิซานากิหนีต่อไปได้

ทว่า สิ่งที่ไล่ตามเทพอิซานากิมาไม่ได้มีแค่ชิโกเมะ แต่ยังมีเทพแห่งสายฟ้าทั้ง 8 ที่ถือกำเนิดจากเทพอิซานามิ และทหารโยมิโนะคุนิอีก 1,500 ตนตามมา ซึ่งทั้งหมดเป็นวิญญาณร้ายที่น่ากลัว อิซานากิวิ่งไปพลางแกว่งดาบโทสึกะโนสึรุงิไปพลาง จนใกล้จะถึงโยโมสึฮิราซากะ(黄泉比良坂) ซึ่งเป็นเขตแดนระหว่างโลกจริงและโยมิโนะคุนิ เทพอิซานากิเด็ดลูกท้อจากต้นที่ขึ้นตรงนั้นมา 3 ลูก แล้วขว้างออกไป ทำให้เหล่าวิญญาณร้ายที่ตามมาเสียกระบวนจนหนีกลับไป

สุดท้ายเทพอิซานามิก็ตามาถึง เทพอิซานากิจึงขยับก้อนหินยักษ์ที่เรียกกันว่าจิบิกิโนะอิวะ (千引の石) ที่ต้องใช้คนถึงพันคนมาออกแรงถึงจะขยับได้มาอุดทางเข้าโยโมสึฮิราซากะเอาไว้ ทั้งคู่คุยกันอยู่คนละฟากของก้อนหิน เมื่อเทพอิซานากิขอแยกทาง เทพอิซานามิจึงว่า “หากสามีที่รักเช่นท่านกล่าวเช่นนั้น ข้าก็จะฆ่าคนในประเทศของท่านวันละพันคน” เทพอิซานากิจึงตอบกลับไปว่า “หากภรรยาที่รักเช่นท่านกล่าวเช่นนั้น ข้าก็จะให้กำเนิดวันละพันห้าร้อยคน” และนี่คือการลาจากกันชั่วนิรันดร์ของเทพอิซานากิและอิซานามิ

เทพอิซานามิถูกเรียกว่าเทพโยโมสึโอคามิ(黄泉津大神) และกลายเป็นมหาเทพของโยมิโนะคุนิ ส่วนเทพอิซานากิ ก็เป็นมหาเทพของโลกมนุษย์

Ref
   หนังสือ現代語古事โดย ทาเคดะ สึเนะยาสึ
----------------------------------------------------------------------------

มุมรำพึงกับคนเขียน

                ก็...คราวนี้ไม่เชิงรำพึงนะครับ แต่เรียกว่าวิเคราะห์และสรุปตามความเข้าใจของผมมากกว่า

                โยมิโนะคุนิ อันที่จริงไม่ได้บอกว่าเป็นสถานที่แบบใดอย่างชัดเจน ตามที่ทุกท่านได้อ่านมาคงจะเห็นแล้วว่าน่าจะเป็นดินแดนหลังความตาย ซึ่งในโคจิกิ คำว่า ประเทศ ( คุนิ) ที่ต่อท้ายชื่อนั้น ในความรู้สึกผมหมายถึง “ดินแดน” หรือ “โลก” มากกว่าที่จะเป็นประเทศ เพราะฉะนั้น 天国 จึงแปลว่าสวรรค์ครับ ซึ่งบางครั้งหากมีคำว่าโยมิโนะคุนิ ผมจะเขียนไปเลยว่าเป็น “ดินแดนหลังความตาย” ที่น่าจะเข้าใจได้ง่ายมากกว่าการทับศัพท์ แต่ในโคจิกิผมจะเขียนว่า โยมิโนะคุนิ เสมอ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันครับ

                นอกจากโยมิโนะคุนิแล้วยังมี “ดินแดน” ชื่ออื่นๆ ที่ลักษณะต่างกันอีก แต่จะเอาไว้กล่าวถึงหลังจากนี้อีกไม่นานครับ อ้อใช่ หากคุณผู้อ่านสังเกต ตอนนี้เทพอิซานากิกับเทพอิซานามิแยกทางกันแล้ว เทพอามาเทราสึก็ยังไม่ถือกำเนิดครับ เทพที่กำเนิดบนโลกหลังจากนี้จะเป็นเทพอีกแบบในตอนหน้า ซึ่งจะเป็นตอนกำเนิดของเทพอามาเทราสึแล้ว และผมก็หวังว่าจะได้เขียนเร็วๆ เพราะก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ถึงจะอ่านมารอบนึงแล้วก็เถอะนะ ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า “กำเนิดมหาเทพีอามาเทราสึ” ครับ

kutora

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น