วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การกำเนิดของมหาเทพอามาเทราสึ

                รู้สึกพักนี้จะเขียนเอนทรี่ติดกันรัวๆ เพราะเพิ่งจะมีเวลานี่ล่ะครับ T_T

                ตอนนี้ก็มาต่อกันเลยกับตอนสำคัญครับ กับกำเนิดเทพอามาเทราสึ

                หลังจากเทพอิซานากิกลับมาจากโยมิโนะคุนิ ก็ไปชำระร่างกาย เครื่องแต่งกายต่างๆ ที่เทพอิซานากิถอดออกตอนนั้นก็ได้กลายเป็นเทพขึ้นมาอีก 12 องค์

                วะตะสึมิโนะคามิ (綿津見神) ทั้ง 3 องค์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากการชำระล้างของเทพอิซานากินั้น เป็นตระกูลทรงอำนาจที่คอยควบคุมกลุ่มอามะ (海人) และเป็นบรรพบุรุษของกลุ่มอาซึมิโนะมุราจิ (阿曇連) ซึ่งกลุ่มอาซึมิโนะมุราจินี้เป็นหลานของบุตรแห่งวะตะสึมิโนะคามิ ชื่ออุสึชิฮิคานะสะคุโนะมิโคโตะ (宇都志日金析命) เทพทั้ง 3 องค์คือ โซโคะสึสึโนะโอะโนะมิโคโตะ (底箇之男命), นากะสึสึโนะโอะโนะมิโคโตะ (中箇之男命) และอุวะสึสึโนะโอะโนะมิโคโตะ (上箇之男命) เป็นเทพแห่งการเดินทาง และถูกสักการะบูชาในฐานะไตรมหาเทพแห่งสึมิโนะเอะ (墨江 ปัจจุบันคือศาลเจ้าสึมิโยชิในจังหวัดโอซาก้า) และถูกขนานนามว่ามหาเทพสึมิโยชิโนะโอคามิ (住吉大神) มหาเทพทั้ง 3 องค์หลังจากนี้จะมอบคำพยากรณ์แก่จักรพรรดิองค์ที่ 14 คือจักรพรรดิจูไอ แล้วปลอดชีพองค์จักรพรรดิที่ไม่ยอมทำตามคำพยากรณ์ และถูกเล่าขานใหม่อีกครั้งในฐานะเทพผู้ปกปักษ์จักพรรดินีจินงูในการเดินทางไปยังชิรางิ (新羅 อีกชื่อหนึ่งคืออาณาจักรชิลลาเก่าของเกาหลี) ในภายหลัง

                และเมื่อเทพอิซานากิล้างหน้านั้น เทพที่ถือกำเนิดจากการล้างตาข้างซ้ายของเทพอิซานากิ เป็นเทพที่ส่องแสงไปถึงสวรรค์ ซึ่งก็คือมหาเทพอามาเทราสึ (天照大御神) ซึ่งเป็นเทพีสุริยา หรือเทพแห่งพระอาทิตย์นั่นเอง เมื่อเทพอิซานากิล้างตาข้างซ้าย ก็กำเนิดเป็นเทพแห่งดวงจันทร์ สึคุโยมิโนะมิโคโตะ (月読命) ครั้นเมื่อเทพอิซานากิล้างจมูก ก็กำเนิดเป็นเทพแห่งวายุผู้กล้าหาญและรวดเร็ว ทาเคะฮายาสึซาโนโอะโนะมิโคโตะ (健速須佐之男命) เทพ 3 องค์ที่เราคุ้นชื่อกันดีนั่นเอง

                เทพอิซานากิดีใจมากที่ตนให้กำเนิดเทพที่ยอดเยี่ยมออกมาถึง 3 องค์ จึงได้ถอดสร้อยคอให้แก่อามาเทราสึ พร้อมสั่งให้ไปครองทาคามะโนะฮาระ ให้สึคุโยมิไปปกครองโยรุโนะโอสึคุนิ (夜之食国=โลกราตรี) และให้สึซาโนโอะไปปกครองอุนะฮาระ (海原)

                ทว่า สึซาโนะโอะที่ถูกสั่งให้ไปปกครองอุนะฮาระนั้นเอาแต่ร้องไห้ ทำให้เกิดอาเพศขึ้น ภูเขาแห้งแล้ง แม่น้ำและทะเลก็เหือดแห้ง และเนื่องจากสึซาโนะโอะเป็นเทพแห่งวายุ จึงทำให้เกิดวาตภัยไปทั่วทุกแห่ง เมื่อเทพอิซานากิถามถึงสาเหตุว่าทำไมถึงเอาแต่ร้องไห้ สึซาโนะโอะจึงตอบไปว่า “ตนอยากจะไปยังเนะโนะคาตะสึคุนิ (根之堅州国) ที่มารดาอยู่ จึงได้ร้องไห้” สึนาโนะโอะนั้นคิดว่าเทพอิซานามิเป็นแม่ของตน ทำให้เทพอิซานากิโกรธ จนขับไล่สึซาโนะโอะออกจากอุนะฮาระ
                ตอนนี้ผมขอจบไว้เพียงเท่านี้ครับ เนื่องจากตอนหน้าจะเข้าช่วงที่เรื่องราวมีอามาเทราสึและสึซาโนโอะเป็นศูนย์กลางแล้ว และคงยาว แบ่งไว้แบบนี้น่าจะอ่านได้ง่ายกว่าครับ

Ref
  • หนังสือ 現代語古事記 โดย ทาเคดะ สึเนะยาสึ



มุมรำพึงกับคนเขียน

                ไม่ทราบจะวิเคราะห์ยังไงดีครับ = =’

                ท่านที่อ่านน่าจะเห็นแล้วว่า ตอนที่แล้วเรารู้กันว่าเทพอิซานามิอยู่ที่โยมิโนะคุนิ แต่ตอนนี้ สึซาโนโอะกลับพูดว่า เทพอิซานามิอยู่ที่เนะโนะคาตะสึคุนิ ซึ่งเป็นข้อสงสัยกันในหมู่ผู้อ่านโคจิกิว่า ทั้งสองที่นี้เป็นที่เดียวกันหรือไม่ มีทั้งผู้ที่บอกว่าเป็นที่เดียวกัน และไม่ใช่ที่เดียวกัน แต่จากการวิเคราะห์ของอ.ทาเคดะผู้เขียนหนังสือโคจิกิเล่มที่ผมอ่านนั้นสรุปว่า “น่าจะ” เป็นคนละสถานที่เนื่องจากหากสึซาโนะโอะอยากจะไปหาแม่(เทพอิซานามิ) ก็จะจะต้องพูดว่าไปที่โยมิโนะคุนิ แต่กลับบอกว่าเทพอิซานามิอยู่ที่เนะโนะคาตะสึคุนิ ทั้งสองที่นี้จึงน่าจะเป็นคนละสถานที่กัน แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครฟันธงเพราะต้นฉบับไม่ได้บอกอะไรไว้ชัดเจนครับ


kurota

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

โยมิโนะคุนิ (黄泉の国)

เทพอิซานากิเศร้าโศกเสียใจ จนออกติดตามเทพอิซานามิไปยังโยมิโนะคุนิ เมื่อมาถึงยังปราสาทที่เทพอิซานามิอยู่ เทพอิซานากิก็อ้อนวอนขอร้องให้กลับไปด้วยกัน หากแต่เทพอิซานามิตอบกลับมาว่า “หากท่านมาให้เร็วกว่านี้ก็คงจะดี ตัวข้าเองได้ทานอาหารของโยมิโนะคุนิเข้าไป จึงกลายเป็นคนของโลกนี้ไปแล้ว ไม่สามารถกลับไปกับท่านได้ แต่หากท่านเอ่ยปากเช่นนั้น ข้าจะลองปรึกษากับเทพแห่งโยมิโนะคุนิ ในระหว่างนั้น ขอให้ท่านสัญญาว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ห้ามมองข้าเด็ดขาด” เทพอิซานากิก็รับปาก แต่รอแล้วรอเล่าเทพอิซานามิก็ยังไม่มาเสียที

เมื่อทนรอไม่ได้ เทพอิซานากิจึงได้ละเมิดสัญญาแล้วเข้าไปในปราสาท ตัวปราสาทนั้นมืด เทพอิซานากิจึงหักซี่ที่ใหญ่ที่สุดของหวีออกมาแล้วใช้จุดไฟนำทาง แต่สิ่งที่เทพอิซานากิได้เห็นก็คือร่างอันเน่าเปื่อย มีหนอนชอนไชของเทพอิซานามิ เทพอิซานากิตกใจจนวิ่งหนีออกมา เทพอิซานามิทั้งโกรธและอับอายจึงส่งโยโมสึชิโกเมะ(予母都志許売) ซึ่งเป็นชิโกเมะ (醜女=ปิศาจในโยมิโนะคุนิ หน้าตาน่ากลัว กระโจนครั้งหนึ่งได้ไกลถึง 4,000 กม.) ตามไป เมื่อเห็นจวนตัวเทพอิซานากิจึงได้ขว้างไม้เลื้อยออกไป เมื่อตกถึงพื้นก็กลายเป็นองุ่นงอกขึ้นมา ชิโกะเมะที่ตามมาก็เก็บองุ่นกินทำให้เทพอิซานากิหนีต่อไปได้ แต่ชิโกเมะกินองุ่นหมดไวมากก็ตามกระชั้นเข้ามาอีก เทพอิซานากิจึงขว้างที่รวบผมข้างขวาออกไปกลายเป็นหน่อไม้ ชิโกเมะก็เก็บกินอีก เปิดช่องว่างให้เทพอิซานากิหนีต่อไปได้

ทว่า สิ่งที่ไล่ตามเทพอิซานากิมาไม่ได้มีแค่ชิโกเมะ แต่ยังมีเทพแห่งสายฟ้าทั้ง 8 ที่ถือกำเนิดจากเทพอิซานามิ และทหารโยมิโนะคุนิอีก 1,500 ตนตามมา ซึ่งทั้งหมดเป็นวิญญาณร้ายที่น่ากลัว อิซานากิวิ่งไปพลางแกว่งดาบโทสึกะโนสึรุงิไปพลาง จนใกล้จะถึงโยโมสึฮิราซากะ(黄泉比良坂) ซึ่งเป็นเขตแดนระหว่างโลกจริงและโยมิโนะคุนิ เทพอิซานากิเด็ดลูกท้อจากต้นที่ขึ้นตรงนั้นมา 3 ลูก แล้วขว้างออกไป ทำให้เหล่าวิญญาณร้ายที่ตามมาเสียกระบวนจนหนีกลับไป

สุดท้ายเทพอิซานามิก็ตามาถึง เทพอิซานากิจึงขยับก้อนหินยักษ์ที่เรียกกันว่าจิบิกิโนะอิวะ (千引の石) ที่ต้องใช้คนถึงพันคนมาออกแรงถึงจะขยับได้มาอุดทางเข้าโยโมสึฮิราซากะเอาไว้ ทั้งคู่คุยกันอยู่คนละฟากของก้อนหิน เมื่อเทพอิซานากิขอแยกทาง เทพอิซานามิจึงว่า “หากสามีที่รักเช่นท่านกล่าวเช่นนั้น ข้าก็จะฆ่าคนในประเทศของท่านวันละพันคน” เทพอิซานากิจึงตอบกลับไปว่า “หากภรรยาที่รักเช่นท่านกล่าวเช่นนั้น ข้าก็จะให้กำเนิดวันละพันห้าร้อยคน” และนี่คือการลาจากกันชั่วนิรันดร์ของเทพอิซานากิและอิซานามิ

เทพอิซานามิถูกเรียกว่าเทพโยโมสึโอคามิ(黄泉津大神) และกลายเป็นมหาเทพของโยมิโนะคุนิ ส่วนเทพอิซานากิ ก็เป็นมหาเทพของโลกมนุษย์

Ref
   หนังสือ現代語古事โดย ทาเคดะ สึเนะยาสึ
----------------------------------------------------------------------------

มุมรำพึงกับคนเขียน

                ก็...คราวนี้ไม่เชิงรำพึงนะครับ แต่เรียกว่าวิเคราะห์และสรุปตามความเข้าใจของผมมากกว่า

                โยมิโนะคุนิ อันที่จริงไม่ได้บอกว่าเป็นสถานที่แบบใดอย่างชัดเจน ตามที่ทุกท่านได้อ่านมาคงจะเห็นแล้วว่าน่าจะเป็นดินแดนหลังความตาย ซึ่งในโคจิกิ คำว่า ประเทศ ( คุนิ) ที่ต่อท้ายชื่อนั้น ในความรู้สึกผมหมายถึง “ดินแดน” หรือ “โลก” มากกว่าที่จะเป็นประเทศ เพราะฉะนั้น 天国 จึงแปลว่าสวรรค์ครับ ซึ่งบางครั้งหากมีคำว่าโยมิโนะคุนิ ผมจะเขียนไปเลยว่าเป็น “ดินแดนหลังความตาย” ที่น่าจะเข้าใจได้ง่ายมากกว่าการทับศัพท์ แต่ในโคจิกิผมจะเขียนว่า โยมิโนะคุนิ เสมอ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันครับ

                นอกจากโยมิโนะคุนิแล้วยังมี “ดินแดน” ชื่ออื่นๆ ที่ลักษณะต่างกันอีก แต่จะเอาไว้กล่าวถึงหลังจากนี้อีกไม่นานครับ อ้อใช่ หากคุณผู้อ่านสังเกต ตอนนี้เทพอิซานากิกับเทพอิซานามิแยกทางกันแล้ว เทพอามาเทราสึก็ยังไม่ถือกำเนิดครับ เทพที่กำเนิดบนโลกหลังจากนี้จะเป็นเทพอีกแบบในตอนหน้า ซึ่งจะเป็นตอนกำเนิดของเทพอามาเทราสึแล้ว และผมก็หวังว่าจะได้เขียนเร็วๆ เพราะก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ถึงจะอ่านมารอบนึงแล้วก็เถอะนะ ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า “กำเนิดมหาเทพีอามาเทราสึ” ครับ

kutora

การให้กำเนิดเทพเจ้าของเทพอิซานากิและเทพอิซานามิ


ก่อนอื่นต้องขออภัยครับที่ห่างหายไปหลายเดือนเนื่องจากติดงานเลยไม่ได้เขียนต่อ

ที่ผ่านมาผมรู้สึกว่าจะเขียนลงรายละเอียดเยอะไปหน่อย คือเป็นรายละเอียดที่ไม่ต้องรู้ก็ได้น่ะครับ แต่เนื่องจากมันเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นก็เลยลงเอาไว้ แต่พอกลับมาอ่านเองอีกทีก็เห็นว่าน่าจะตัดทอนออกไปบ้างเนื่องจากอ่านยากมาก แล้วก็เป็นเรื่องที่ไม่ต้องจำก็ได้ เพราะฉะนั้นต่อไปจะพยายามตัดทอนเนื้อหาให้เหลือเน้นไปทางเรื่องเทพเจ้ามากยิ่งขึ้นครับ แต่อาจจะมีแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยบ้างเช่นเคย

ส่วนหัวข้อตอนนี้จะเป็นการให้กำเนิดเทพเจ้าของเทพอิซานากิและอิซานามิครับ น่าจะเป็นตอนที่ทุกคนรอคอย แต่ยังไม่ถึงเทพอามาเทราสึผู้โด่งดังนะครับ ต้องผ่านเควสนี้ไปก่อน

หลังจากที่เทพอิซานากิและเทพอิซานามิได้ให้กำเนิดเกาะญี่ปุ่นแล้ว ก็ให้กำเนิดเทพขึ้นมา เริ่มจากเทพที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย 7 องค์ ตามด้วยเทพแห่งทะเล, เทพแห่งแม่น้ำ และเทพเจ้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำ 3 องค์ เทพแห่งลม, เทพแห่งพืชพันธุ์, เทพแห่งภูเขา, เทพแห่งทุ่งหญ้า ซึ่งเป็นเทพที่เกี่ยวข้องกับพื้นพิภพ 4 องค์ สุดท้ายคือเทพเรือ, เทพแห่งอาหาร, เทพแห่งไฟ ซึ่งเป็นเทพที่เกี่ยวกับการสร้าง 3 องค์ รวมทั้งหมด  17 องค์

ระหว่างนั้น เทพฮะยะอากิสึฮิโกะโนะคามิ (速秋津比子神) และเทพฮะยะอากิสึฮิเมะโนะคามิ (速秋津比売神) ก็แบ่งกันครอบครองแม่น้ำและทะเล และให้กำเนิดเทพแห่งฟอง, เทพแห่งคลื่น, เทพแห่งผิวน้ำ ซึ่งเป็นเทพเจ้าเกี่ยวข้องกับน้ำและแม่น้ำขึ้นมาอีก 8 องค์ และเทพแห่งภูเขา โอยามะสึมิโนะคามิ (大山津見神) และเทพเจ้าแห่งทุ่งหญ้า คะยะโนะฮิเมะโนะคามิ (鹿屋野比売神) ก็แบ่งกันครอบครองภูเขาและทุ่งหญ้า และได้ให้กำเนิดเทพที่เกี่ยวข้องกับยอดเขา, หมอก, หุบเหว ซึ่งเป็นเทพที่เกี่ยวข้องกับภูเขาและทุ่งหญ้าขึ้นมาอีก 8 องค์  และเทพที่ถือกำเนิดขึ้นมาอีกรวม 18 องค์ ก็ถือเป็นหลานของเทพอิซานากิและเทพอิซานามิ

ทว่า ระหว่างที่เทพอิซานามิให้กำเนิดเทพแห่งไฟ ฮิโนะคางุสึจิโนะมิคามิ (火之迦具土神) นั้น ได้ถูกเพลิงเผาจนได้รับบาดเจ็บ แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงให้กำเนิดเทพออกมาอีกจากของเหลวที่สำรอกออกมาจากทวารต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งเทพที่ถือกำเนิดมาจากปัสสาวะของเทพอิซานามิ ก็คือเทพแห่งการให้กำเนิดวะคุมุสึฮิโนะคามิ (和久産巣日神)

บุตรีของเทพวะคุมุสึฮิโนะคามิ คือเทพแห่งธัญพืช โทโยอุเคบิเมะโนะคามิ (豊宇気毘売神) และเทพโทโยอุเคบิเมะโนะคามิองค์นี้จะเป็นเทพเจ้าองค์สำคัญที่ถูกสักการะบูชาอยู่ในศาลเจ้าส่วนนอกของศาลเจ้าอิเสะ ในฐานะเทพที่คอยดูแลเรื่องอาหารของเทพอามาเทราสึในภายหลัง

เทพอิซานามิล้มเจ็บลงไม่นานก็เสียชีวิตไป เทพอิซานากินอนร่ำไห้เนื่องจากไม่คิดว่าการให้กำเนิดเทพจะทำให้เทพอิซานามิต้องเสียชีวิต น้ำตาของเทพอิซานากิที่หลั่งออกมากลายเป็นเทพนะคิซาวะเมะโนะคามิ (泣沢女神) ซึ่งเป็นเทพแห่งน้ำพุ เทพอิซานากินำศพของเทพอิซานามิไปฝังยังภูเขาฮิบะโนะยามะ ที่อยู่ระหว่างเขตแดนของอิซึโมะโนะคุนิและฮะฮะคิโนะคุนิ เทพอิซานากิแค้นเคืองมากถึงกับชักดาบโทสึกะโนะสึรุงิ (十拳剣) ออกมาฟันคอของฮิโนะคางุสึจิที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานจนขาด เลือดที่กระเซ็นออกจากคอของฮิโนะคางุสึจิไปติดที่ดาบและก้อนหินก็ได้กำเนิดเป็นเทพแห่งดาบและก้อนหินขึ้นมา หนึ่งในนั้นก็คือเทพทาเคะมิกะสึจิโนะโอมิคามิ(健御雷之男神) หรืออีกชื่อคือทาเคะฟุสึโนะคามิ (健布都神) นอกจากเลือกแล้ว ชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ ในร่างกายก็ได้กลายเป็นเทพเจ้าขึ้นมาอีกหลายต่อหลายองค์ และดาบโทสึกะโนะสึรุงิที่ใช้ตัดคอฮิโนะคางุสึจินั้นก็ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า อาเมะโนะโอฮาบะริ (天之尾羽張) หรืออิสึโนะโอฮาบะริ (伊都之尾羽張)

เนื่องจากการเสียชีวิตของเทพอิซานามิ การสร้างประเทศ(ในความคิดผมก็คือการสร้างแผ่นดิน)นั้นชะงักลง เรื่องราวหลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องราวที่กล่าวถึงโยมิโนะคุนิ (黄泉国) ซึ่งเป็นโลกแห่งความตาย ที่ผมจะแยกเอาไว้ในหัวข้อถัดไปครับ

Ref


  • หนังสือ現代語古事โดย ทาเคดะ สึเนะยาสึ

  •  -----------------------------------------------------------------------------

    มุมรำพึงกับคนเขียน


    อันที่จริงผมได้รู้จักกับโคจิกิ ก็เพราะอนิเมเรื่อง Mai-HiME ครับ ไชลด์ในเรื่องรวมรวบมาจากตำนานเทพต่างๆ ทั่วโลก แน่นอนล่ะว่าที่ดึงดูดผมมากที่สุดก็คือไชลด์ของญี่ปุ่น ถ้าจำไม่ผิดก็จะเป็นคิโยฮิเมะ (清姫) ของประธานฟุจิโนะ ชิซึรุ ซึ่งก็เป็นตำนานที่จบในตรงนั้นไม่มีต่อ แต่ที่ทำให้ผมเจอกับโคจิกิเข้าจังๆ ก็คือไชลด์ที่มีที่มาจากเทพแห่งไฟคางุสึจิ ของโทคิฮะ ไม นี่แหละครับ หลังจากผมค้นข้อมูลก็เลยยาวมาจนป่านนี้

    วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

    ตำนานการสร้างแผ่นดิน คุนิอุมิ (国生み)

    ตำนานการสร้างแผ่นดิน

                    ต่อจากตำนานการกำเนิดของเทพสวรรค์และเทพทั้ง7รุ่นแล้ว ก็จะเป็นเรื่องราวการ “สร้างแผ่นดิน” และการ “ให้กำเนิดเทพ” ของเทพอิซานากิและอิซานามิครับ

                    เทพสวรรค์ทุกองค์ที่อยู่บนทาคามะโนะฮาระได้มีมติบัญชาให้เทพรุ่นสุดท้ายคือเทพอิซานากิและเทพอิซานามิว่า “จงลงไปทำให้โลกเบื้องล่างมีรูปร่างแข็งเสีย” และให้หอก “เท็นโนะนุโบโกะ(หอกบึงสวรรค์)” มา เทพอิซานากิและเทพอิซานามิได้ลงมายืนอยู่บนสะพานลอยสวรรค์ และจุ่มหอกนั้นลงไปในทะเลแล้วกวนน้ำทะเล ตอนที่ยกหอกขึ้นมานั้นได้มีหยดน้ำทะเลกระเซ็นด้วย หยดน้ำนั้นได้แข็งตัวกลายเป็นเกาะโอะโนะโกะโระชิมะ(於能碁呂島:ไม่ทราบที่ตั้งในปัจจุบัน)

                    หลังจากนั้น เทพทั้งสององค์ได้ใช้เกาะโอะโนะโกะโระชิมะเป็นจุดเริ่มและสร้างเกาะอื่นๆ ขึ้นอีก จากนั้นเทพอิซานากิและเทพอิซานามิได้ลงมายังเกาะที่สร้างขึ้น และสร้างเสาอาเมะโนะมิฮาชิระ(天之御柱)ขึ้นเพื่อใช้ในการติดต่อทางจิตกับเทพสวรรค์บนทาคามะโนะฮาระ และสร้างศาลเจ้ายะฮิโระ(八尋殿)ขึ้น

                    หลังจากพักจากการสร้างแผ่นดินแล้ว เทพอิซานากิรู้สึกว่ามี “สิ่งแปลกปลอม” ห้อยอยู่ที่ร่างกายส่วนล่าง (อิซานากิเป็นผู้ชาย คุณผู้อ่านคงเดาได้นะครับว่าอะไร = =’) จึงถามเทพอิซานามิไปว่า “ร่างกายของท่านนั้นเป็นเช่นไร”  ได้ยินดังนั้น เทพอิซานามิจึงตอบไปว่า “ร่างกายของเราสมบูรณ์ดี แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่เป็นโพรงเข้าไป เหมือนมีอะไรขาดไปอย่างหนึ่ง” (ผู้หญิงครับ...) เทพอิซานากิจึงว่า “ร่างกายของเราก็สมบูรณ์ดี แต่มีจุดหนึ่งที่งอกเกินออกมา หากเราเอาสิ่งที่งอกเกินมาของเรา ไปอุดโพรงที่มีของท่าน แล้วสร้างแผ่นดินขึ้นมา ท่านจะว่าอย่างไร?”  ซึ่งเทพอิซานามิก็เห็นด้วย

                    ตกลงกันได้ดังนั้น เทพทั้งสองจึงเดินวนรอบเสาอาเมะโนะมิฮาชิระ และทำพิธีที่เรียกว่า “มิโตะโนะมุงุวะอิ(美斗能麻具波比)” ซึ่งพิธีนี้หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์กันนั่นเอง  เทพอิซานากิเดินวนซ้าย ส่วนเทพอิซานามิเดินวนขวา เมื่อทั้งสององค์เดินมาพบกัน เทพอิซานามิได้อุทานขึ้นมาว่า “ท่านช่างเป็นชายรูปงามอะไรเยี่ยงนี้” และเทพอิซานากิได้อุทานว่า “ท่านช่างเป็นหญิงงามอะไรเยี่ยงนี้”

                    ว่ากันว่าในคำพูดนั้นมีพลังศักดิ์สิทธิ์ คำพูดที่ดีจะนำความสุขมาให้ และคำพูดที่แย่จะนำความทุกข์มาให้ เทพทั้งสององค์ได้รับมอบหน้าที่ให้สร้างแผ่นดิน จึงเลือกใช้คำพูดชื่นชมซึ่งกันและกัน หลังจากนั้น เทพอิซานากิได้พูดกับเทพอิซานามิว่า “เป็นผู้หญิงพูดขึ้นมาก่อนมันไม่ดี” แต่ถึงกระนั้น ทั้งคู่ก็ยังร่วมหอกันในห้องนอนในศาลเจ้านั้นเอง ทว่าเด็กที่เกิดออกมาครั้งนั้นไม่มีแขนขา เรียกกันว่า “ฮิรุโกะ(水蛙子:คันจิของคำๆ นี้ให้ความหมายว่ารูปร่างคล้ายลูกอ๊อดของกบ)” เทพทั้งสององค์เศร้าเสียใจ และได้นำฮิรุโกะใส่เรือที่ทำจากต้นอ้อ ปล่อยให้ไหลไปตามกระแสน้ำ และเด็กที่ออกมาคนต่อไปก็คืออาวะชิมะ(淡島:คันจิตัวนี้หมายถึงเกาะที่เป็นฟอง) เป็นเกาะไม่สมบูรณ์ที่รูปร่างราวกับฟองของน้ำ เด็กที่ออกมาทั้งสองคนนี้ ไม่นับเป็นลูกเพราะรูปร่างไม่สมบูรณ์

                    เห็นดังนั้น เทพอิซานากิและเทพอิซานามิได้หารือกันว่าเด็กที่คลอดออกมานั้นไม่สมบูรณ์ และไปปรึกษาเทพสวรรค์ จากการทำนายด้วยฟุโตมานิ(:การทำนายอย่างหนึ่งโดยใช้กระดูกสัตว์ นิยมเป็นกระดูกกวาง ปัจจุบันยังมีการทำนายแบบนี้อยู่ในศาลเจ้ามุซาชิมิทาเกะในโตเกียว และศาลเจ้านุคิซากิในจังหวัดกุนมะ) และได้ทราบว่าสาเหตุนั้นเกิดจากการที่ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายออกปากก่อนนั่นเอง เมื่อได้ทราบสาเหตุแล้ว เทพทั้งสององค์ก็รีบรุดกลับมายังเกาะโอะโนะโกะโระชิมะ และได้วนรอบเสาอาเมะโนะมิฮาชิระอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เทพอิซานากิได้เป็นฝ่ายออกปากก่อน แล้วก็ร่วมหอกันไปตามขั้นตอน (แหม่...)

                    การณ์เป็นไปดังนั้น จึงได้กำเนิดแผ่นดินที่สมบูรณ์ออกมา โดยมีลำดับดังนี้

    • เกาะอาวะจิโนะโฮะโนะสะวาเกะโนะชิมะ(淡道之穂の狭別島หรือ อาวะจิชิมะ淡路島)
    • เกาะอิโนะโนะฟุตะนาโนะชิมะ(伊予之二名島:ปัจจุบันคือเกาะชิโกกุ四国ของญี่ปุ่น) ซึ่งเกาะนี้มีกายเดียวแต่มีสี่หน้า และแต่ละหน้าก็มีชื่อต่างกันไปคือ อิโยะโนะคุนิ(伊予国ปัจจุบันคือจังหวัดเอะฮิเมะ愛媛県)เรียกกันว่าเอะฮิเมะ(愛比売), สะนุคิโนะคุนิ(讃岐国ปัจจุบันคือจังหวัดคางาวะ香川県)เรียกกันว่าอีโยริฮิโกะ(飯依比古), อาวะโนะคุนิ(粟国 หรือ阿波国 จังหวัดโทคุชิมะ徳島県)เรียกว่าโอเง็ตสึฮิเมะ(大宜都比売) และโทะสะโนะคุนิ(土左国 ปัจจุบันคือโทสะโนะคุนิ 土佐の国จังหวัดโควจิ高知見)เรียกกันว่า ทาเคะโยริวาเกะ(建依別)
    •  เกาะโอคิโนะมิตสึโงะโนะชิมะ(隠伎之三子島)ปัจจุบันคือเกาะโอคิโชะโตวจังหวัดชิมาเนะ(隠岐諸島、島根県) มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า อาเมะโนะโอชิโกะโระวาเกะ(天之忍許呂別)
    • เกาะสึคุชิโนะชิมะ(築紫島)หรือเกาะคิวชู(九州)ในปัจจุบัน ซึ่งเกาะนี้ก็มี 1 ร่าง 4 หน้าเช่นกันคือ สึคุโนะชิโนะโนะคุนิ(築紫国ปัจจุบันคือจังหวัดฟุคุชิม่า) เรียกกันว่าชิราฮิวาเกะ(白日別), โทโยโนะคุนิ(豊国ปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของจังหวัดโออิตะกับฟุคุชิม่า) เรียกกว่าโทโยฮิวาเกะ(豊日別), ฮิโนะคุนิ(肥国 ปัจจุบันคือจังหวัดคุมาโมโตะ, จังหวัดซากะ, จังหวัดนางาซากิ) เรียกกันว่าทาเคะฮิมุคาฮิโทโยคุจิฮินุวาเกะ (建日向日豊久士比泥別) และคุมะโสะโนะคุนิ (熊曾国ปัจจุบันคือคิวชูใต้) เรียกกันว่า ทาเคะฮิวาเกะ(建日別)
    • เกาะอิคิโนะชิมะ(伊岐島 ปัจจุบันคือเกาะ壱岐島ในจังหวัดนางาซากิ) มีชื่อเรียกว่าอามะฮิโทสึฮาชิระ(天比登都柱)
    • เกาะสึชิมะ (津島ปัจจุบันคือเกาะสึชิมะ対馬ในจังหวัดนางาซากิ) มีชื่อเรียกว่า อาเมะโนะสะเดโยริฮิเมะ (天之狭手依比)
    • เกาะสะโดะโนะชิมะ (佐度島ปัจจุบันคือเกาะสะโดะงะชิมะ佐度島ในจังหวัดนีงาตะ)
    • เกาะโอยามาโตะโทโยอากิสึชิมะ(大倭豊秋津島ปัจจุบันคือส่วนกลางของเขตปริมณฑลที่ล้อมรอบจังหวัดเกียวโต)มีชื่อว่าอาเมะโนะมิโซระโทโยอากิสึเนะวาเกะ(天御虚空豊秋津根別)

    ซึ่งเกาะที่ถือกำเนิดขึ้นมาทั้ง 8 นี้เรียกรวมกันว่า โอยะชิมะโนะคุนิ(大八島国

    และเมื่อเทพทั้งสององค์เดินทางกลับโอะโนะโกะโระชิมะนั้นก็ได้ให้กำเนิดเกาะขึ้นมาอีก 6 เกาะคือ
    •  เกาะคิบิโนะโกะชิมะ(吉備児島ปัจจุบันคือคาบสมุทรโคชิมะในจังหวัดโอกะยามะ)มีชื่อเรียกว่า ทาเคฮิคาตะวาเกะ(建日方別)
    • เกาะอาซึกิชิมะ(小豆島 ปัจจุบันคือเกาะโชวโดชิมะ小豆島ที่อยู่ทางตะวันตกของเกาะอาวะจิชิมะ淡路島) มีชื่อเรียกว่า โอโนะเดะฮิเมะ (大野手比売)
    • เกาะโอชิมะ(大島สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเกาะสึโอวโอชิมะ周防大島หรือชื่อเป็นทางการว่าเกาะยาชิโระชิมะ屋代島ในจังหวัดยามะงุจิ) มีชื่อเรียกว่า โอตะมารุวาเกะ(大多麻流別)
    •  เกาะโอมินะชิมะ (女島สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเกาะฮิเมะจิมะ姫島ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของคาบสมุทรคุนิซากิ จังหวัดโออิตะ)มีชื่อเรียกว่า อามะฮิโตทสึเนะ (天一根)
    •  เกาะจิกะโนะชิมะ (知詞島 ปัจจุบันคือหมู่เกาะทั้ง5五島列島ในจังหวัดนางาซากิ) มีชื่อเรียกว่า อาเมะโนะโอชิโอะ(天之忍男)
    • เกาะฟุตะโกะโนะชิมะ(両児島ปัจจุบันคือเกาะโอชิมะหรือเมะชิมะที่อยู่ทางตอนใต้ของหมู่เกาะทั้ง5) มีชื่อเรียกว่า อาเมะฟุตะยะ (天両屋)

    เมื่อให้กำเนิดเกาะทั้ง 6 นี้ ก็จะจบเรื่องราวในส่วนของตำนาน “การสร้างแผ่นดิน” และการสร้างหมู่เกาะญี่ปุ่นตามตำนานโคจิกิก็เสร็จสมบูรณ์ครับ คราวหน้าเราจะมาต่อในส่วนของตำนานกำเนิดเทพของอิซานากิและอิซานามินะครับ เชื่อว่าหลายคนคงรออยู่แน่ๆ จะพยายามครับ

    ปล. ถ้ามีเกร็ดอะไรเพิ่มเติมผมจะเอามาลงเพิ่มไม่ขึ้นเป็นเอนทรี่ใหม่นะครับ

    Ref


    มุมรำพึงกับคนเขียน

    ที่จริงเขียนทิ้งเอาไว้เป็นเดือนแล้วครับ ช่วงนี้พอดีการ์ตูนใหม่ของอ.อาคามัทสึ เคนออก คงมีหลายคนอ่านแล้วคือUQ Holder ในนั้นก็มีกล่าวถึง “โตเกียวใหม่” ที่มีเสาอาเมะโนะมิฮาชิระด้วยชื่อ “โตเกียวอาเมะโนะมิฮาชิระ” ตอนผมเห็นก็ยังคิดอยู่นะว่าอ.เคนจะเอาโคจิกิมาใส่ในนี้สินะ...ก็คอยดูกันต่อไปครับ การ์ตูนญี่ปุ่นเอี่ยวกับโคจิกิก็มีไม่ใช่น้อยๆ (ถ้าช่วงนี้ที่ผมดูก็มีซิมโฟเกียร์นะ เอาไว้จะเล่าให้ฟังเป็นระยะๆ เมื่อถึงเนื้อเรื่องนะครับ) ผมว่าใครที่สนใจทั้ง 2 ทางนี้น่าจะอ่านได้สนุกเหมือนผมนะ ฮา

    kurota